สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำในประเทศวันนี้ (4 เม.ย.66 )แนวโน้มตลาดทองคำ ติดแนวต้าน 1,990 ทองคำผันผวน หลังกลุ่มโอเปคพลัสประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

น้ำมันดิบขาขึ้น คาดปีหน้าแตะ 100 ดอลลาร์ พิษโอเปกพลัส ลดกำลังผลิตเพิ่ม

ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่า ตลาดกลับมาเล่นข่าวเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย

  • ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 32,000.00 บาท/บาททองคำ และขายออก 32,100.00 บาท/บาททองคำ
  • ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 31,426.68 บาท/บาททองคำ และขายออก 32,600.00 บาท/บาททองคำ

ทองคำในประเทศ อ้างอิงตลาดสปอตที่ 1,980.00ดอลลาร์/ออนซ์ และอิงค่าเงินบาท 34.27 บาท/ดอลลาร์

ฮั่วเซ่งเฮง เปิดเผยแนวโน้ม ราคาทองคำเมื่อคืนที่ผ่านมาคลื่อนไหวผันผวนหลังจากกลุ่มโอเปคพลัสประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันอีกกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปี 2566 ส่งผลให้ราคาทองคำช่วงกลางปรับตัวลง จากความกังวลว่าจะทำให้เงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้น และจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

อย่างไรก็ตามประเด็นดังกล่าวได้ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอย จึงมีแรงซื้อทองคำเข้ามา ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 2.02 ตัน

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม

คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 10.49 ล้านตำแหน่ง ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.พ. ตลาดคาดว่าจะลดลง 0.4% จากที่ลดลง 1.6% ในเดือนม.ค.

แนวโน้มราคาทอง

ราคาทองคำดีดตัวขึ้น แต่สัญญาณจาก MACD อ่อนแรง ขณะที่สัญญาณจาก RSI ยังคงเห็นโอกาสที่จะเกิด Bearish Divergence จึงยังคงต้องระวังแรงเทขายเมื่อราคาทองดีดตัวขึ้นไป โดยให้เปิดสถานะขายทองคำบริเวณราคา 1,990-2,000 ดอลลาร์ ซึ่งราคาทองคำยังติดแนวต้าน 1,990 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,970 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,960 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองคำมีแนวต้าน 1,990 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,000 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตามณ เวลา 23.18 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. บวก 19.40 ดอลลาร์ หรือ 0.98% สู่ระดับ 2,005.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลให้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)