ยังวุ่นกันไม่จบกับประเด็นร้อนใน MOU ของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ที่ประกาศชัดว่า จะดำเนินการนำ "กัญชา" กลับสู่บัญชียาเสพติดให้โทษ จนเกิดความสับสน

นายรัฐพล แสนรักษ์ เจ้าของร้าน HIGHLAND Cafe และเจ้าของเพจ กัญชาชน เปิดใจว่า ผลกระทบที่ตามมาจะรุนแรงอย่างคาดไม่ถึง เพราะเมื่อใดที่ดึงกัญชากลับไปผิดกฎหมาย สิ่งที่เคยอยู่บนดินตรวจสอบได้ จะกลับไปอยู่ใต้ดิน เป็นช่องให้หลบเลี่ยง เป็นช่องโหว่ให้เกิดการทุจริตซ้ำอีกเหมือนช่วงสิบปี ก่อนที่กัญชาจะถูกกฎหมายคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

นอกจากนี้ ผู้คนอีกนับล้านคนจะกลายเป็นอาชญากร ทั้งที่เขาใช้ส่วนตัว แล้วรัฐบาลปัจจุบันก็ประกาศเองว่ากัญชาเสรี ต้องไม่ลืมว่ากัญชาไม่ได้มีแต่เรื่องเลวร้ายเท่านั้น ตนเองจึงไม่เห็นด้วยกับ "พรรคก้าวไกล" ไม่อยากให้ตั้งธงว่าจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเท่านั้น ต้องเจรจาพูดคุยกับทุกฝ่ายก่อน แล้วจัดทำมาตรการควบคุมให้ชัดเจน ตรวจสอบย้อนหลังได้ ส่วนหลายคนที่ไม่ชอบหรือต่อต้านกัญชา คุณรัฐพล ยอมรับว่า เข้าใจเหตุผล เพียงอยากให้ถอยมาคนละครึ่งทาง หากร้านกัญชาใดอยู่ใกล้โรงเรียน ก็สั่งปิด จัดการให้ชัดเจน ส่วนร้านที่ทำถูกต้อง ก็ต้องให้เขาทำธุรกิจได้ เพราะมีการลงทุนไปแล้ว เชื่อว่าทุกอย่างสามารถถอยกันคนละครึ่งทางได้

ขณะที่นายภาวิต สิงห์จินดา ผู้ประกอบการร้านกัญชา Sky High ยอมรับว่า ปัญหาที่หลายฝ่ายกังวลเกี่ยวกับกัญชา คือร้านขายกัญชาใกล้โรงเรียนเกินไป ปัญหากัญชาเถื่อนมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีกฎหมายที่ครอบคลุม จัดระเบียบให้ถูกต้อง เพื่อจะทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสบายใจ

สอดคล้องกับ นางสาวชาลิสา ช่ำชอง จากร้าน Weed dii by CBG (หวี้ด ดี) ให้ความเห็นว่า เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลจะออกมาตรการจัดระเบียบ เนื่องจากในช่วงนี้มีร้านกัญชาที่ผิดกฎหมาย ไม่ได้รับอนุญาต แอบมาขายกันมากขึ้น จนทำให้เยาวชนเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งนำมาจากการปลูกที่ไม่มีใบรับรอง จึงอยากให้รัฐบาลใหม่ ใช้มาตรการเหมือนกับต่างประเทศ เช่น ต้องใบอนุญาตการใช้งานให้กับผู้ซื้อกัญชา จัดโซนนิ่งการใช้ให้ชัดเจน ต้องตรวจบัตรประจำตัว ตรวจพาสปอร์ตก่อนการซื้อ ไม่ใช่ใครซื้อก็ได้

ส่วนกรณีการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ทางร้านยอมรับว่า ผลกระทบเริ่มเกิดขึ้นแล้ว ลูกค้าต่างชาติดข้ามาถาม “ยังซื้อได้อยู่ไหม สูบที่ร้านได้ไหม หรือต้องทำอย่างไร” ทำให้ลูกค้าต่างชาติหลายคนเริ่มกังวลในการเข้ามาซื้อกัญชาในร้าน ทั้งที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลประกาศว่าเสรีกัญชาแล้ว